ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สำหรับรายบุคคล

บ้านใหม่สำหรับไฟล์ของคุณที่ซิงค์กับ Adobe Creative Cloud

คุณได้รับผลกระทบจากการหยุดให้บริการของไฟล์ที่ซิงค์กับ Adobe Creative Cloud หรือไม่ จัดเก็บเนื้อหาของคุณอย่างปลอดภัยไว้บนคลาวด์ และประหยัดพื้นที่ฮาร์ดไดรฟ์บนอุปกรณ์ของคุณด้วย Dropbox

Dropbox Plus มาพร้อมกับบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ขนาด 2 TB พร้อมด้วยเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับโปรเจ็กต์งานสร้างสรรค์ของคุณ เช่น การแบ่งปันไฟล์ที่ปลอดภัยและการกู้คืนไฟล์ภายใน 30 วัน

รูปภาพที่แสดงถึงอินเตอร์เฟสผู้ใช้ในบัญชี Dropbox ของผู้ใช้

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

การหยุดให้บริการของไฟล์ที่ซิงค์กับ Adobe Creative Cloud

ไอคอนที่แสดงถึงป้ายเตือน

ไฟล์ที่ซิงค์กับ Adobe Creative Cloud ได้หยุดให้บริการ

ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2024 ไฟล์ที่ซิงค์กับ Adobe Creative Cloud จะหยุดให้บริการ และไฟล์ต่างๆ จะถูกลบออกจากบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์

ไอคอนที่แสดงถึงกระบวนการอัปโหลดโฟลเดอร์ไปยังบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์

เราแนะนำให้ผู้ใช้ทำการย้ายไฟล์

Adobe แนะนำให้ลูกค้าลองหาพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของบุคคลที่สามรายอื่นและย้ายไฟล์ของตนล่วงหน้า

ไอคอนที่แสดงถึงสัญลักษณ์ข้อมูล

พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนฮาร์ดไดรฟ์อาจมีไม่เพียงพอ

ผู้ใช้ที่มีไฟล์จำนวนมากอาจใช้พื้นที่ฮาร์ดไดรฟ์ในเครื่องจนเต็ม หากพยายามจัดเก็บไฟล์ต่างๆ เหล่านั้นไว้บนอุปกรณ์ของตน

ขอแนะนำ Dropbox

โซลูชันด้านบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ใหม่ของคุณสำหรับโปรเจ็กต์งานสร้างสรรค์

สิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อลงทะเบียนเป็นผู้ใช้ Adobe Creative Cloud มีดังนี้

ไอคอนที่แสดงถึงโฟลเดอร์ภายในบัญชี Dropbox

พื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาด 2 TB

รับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาด 2 TB จาก Dropbox Plus ซึ่งเป็นที่ที่เหมาะในการจัดเก็บ เข้าถึง และแบ่งปันโปรเจ็กต์งานสร้างสรรค์ของคุณอย่างปลอดภัย

ไอคอนที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการซิงค์ไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย Dropbox

เข้าถึงไฟล์ของคุณได้ทุกที่

บันทึกไฟล์โปรเจ็กต์ของคุณไปยัง Dropbox ได้โดยตรง และซิงค์กับทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อไว้ของคุณ

ไอคอนที่แสดงให้เห็นถึงกระบวนการการซิงค์ไฟล์ด้วย Dropbox

เข้าถึงไฟล์ได้ทันที

คุณจะเข้าถึงไฟล์ต่างๆ ได้ทันทีที่มีการซิงค์ โดยไม่ทำให้เวิร์กโฟลว์ของคุณหยุดชะงัก

ไอคอนที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำให้ไฟล์ที่จัดเก็บไว้ใน Dropbox ใช้งานแบบออฟไลน์ได้

ไฟล์ออฟไลน์และไฟล์เฉพาะออนไลน์

ทำเครื่องหมายไฟล์ให้เป็นแบบเฉพาะออนไลน์เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างในพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนฮาร์ดไดรฟ์ และทำให้ไฟล์ใช้งานแบบออฟไลน์ได้อีกครั้งด้วยการคลิกปุ่มเพียงปุ่มเดียว

หลายอุปกรณ์

เนื้อหาของคุณจะพร้อมใช้งานเสมอจากทุกที่

เพราะ Dropbox ช่วยให้สามารถทำงานบนหลายอุปกรณ์และหลายแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ทำให้เวิร์กโฟลว์งานสร้างสรรค์ของคุณหยุดชะงัก

ไม่ว่าคุณจะใช้คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปอันทรงพลังสำหรับการแก้ไข หรือดูการส่งออกอย่างรวดเร็วบนโทรศัพท์หรือแล็ปท็อปของคุณ Dropbox ก็จะซิงค์ไฟล์โปรเจ็กต์ของคุณโดยทันที เพื่อให้ไฟล์เหล่านั้นพร้อมเสมอเมื่อคุณต้องการ

ภาพประกอบที่แสดงถึงอุปกรณ์หลายเครื่องที่สามารถเข้าถึงไฟล์ที่ซิงค์กับบัญชี Dropbox ได้
การซิงค์ที่รวดเร็ว

ข้อมูลจะเป็นปัจจุบันทันทีบนบัญชี Dropbox ของคุณ

ทำการอัปเดตไฟล์หลายครั้งใน Adobe Creative Cloud ได้อย่างต่อเนื่องรวดเร็ว และดูไฟล์ดังกล่าวในพื้นที่จัดเก็บข้อมูล Dropbox ของคุณแบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องกลัวว่าเวอร์ชันต่างๆ จะทับซ้อนกันและจะก่อให้เกิดข้อผิดพลาดต่างๆ

ภาพประกอบที่แสดงถึงความสามารถในการซิงค์ไฟล์ที่รวดเร็วของ Dropbox
ประหยัดพื้นที่

เข้าถึงไฟล์ได้เมื่อคุณมีสัญญาณการเชื่อมต่อที่ไม่ดีหรือไม่มีสัญญาณเลย

ไฟล์ออฟไลน์มอบความยืดหยุ่นในการใช้เนื้อหาที่สำคัญที่สุดของคุณได้ตลอดแม้ว่าจะไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ไม่ว่าคุณจะทำการแก้ไขระหว่างเดินทาง ระหว่างที่ถ่ายทำอยู่ หรือทำอะไรอยู่ก็ตาม เมื่อคุณทำงานเสร็จ เพียงแค่ทำเครื่องหมายไฟล์ให้เป็นแบบเฉพาะออนไลน์อีกครั้งเพื่อคืนพื้นที่กลับมายังพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนฮาร์ดไดรฟ์ของคุณ

ภาพประกอบที่แสดงถึงความสามารถในการประหยัดพื้นที่ของไฟล์เฉพาะออนไลน์และไฟล์ออฟไลน์ของ Dropbox

Dropbox ผสานการทำงานกับ Finder และ File Explorer ได้อย่างราบรื่น จึงช่วยให้คุณสามารถจัดการไฟล์ของตนเองได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยไม่ต้องออกจากเดสก์ท็อปของตนเองเลย

รูปภาพที่แสดงถึงอินเตอร์เฟสผู้ใช้ Dropbox สำหรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลไฟล์

ประสบการณ์การใช้งานเว็บที่ออกแบบมาใหม่ของ Dropbox มาพร้อมกับแถบนำทางด้านซ้ายที่เรียบง่าย เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะสามารถค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีแถบดำเนินการระดับบนสุดที่ผสานรวมเป็นหนึ่งเดียว จึงช่วยให้คุณสามารถสร้างไฟล์หรือดำเนินการได้ทันทีที่เข้าสู่หน้าเพจ

รูปภาพที่แสดงถึงแถบดำเนินการที่มีอยู่ในอินเตอร์เฟสผู้ใช้ Dropbox

ติดตามสถานะการซิงค์ไฟล์ของคุณได้อย่างง่ายดาย ค้นหาไฟล์ของคุณ ดูกิจกรรมล่าสุด และจัดการการกำหนดค่าโดยคลิกที่ไอคอน Dropbox บนแถบงานของ PC หรือแถบเมนูของ Mac

ไอคอนที่แสดงถึงไฟล์ที่ได้ซิงค์ไว้กับบัญชี Dropbox ทำให้สามารถเข้าถึงไฟล์ได้จากทุกอุปกรณ์

แบ่งปันลิงก์ Dropbox ที่มีรูปภาพ วิดีโอ ซิปโฟลเดอร์ ไฟล์ CAD และอื่นๆ กับทุกคน แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีบัญชี Dropbox ก็ตาม Dropbox ช่วยให้สามารถควบคุมว่าใครจะมีสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ของคุณได้อย่างง่ายดาย และควบคุมได้ว่าพวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้างด้วยการตั้งค่าสิทธิ์โฟลเดอร์ที่ชัดเจน

รูปภาพที่แสดงถึงอินเตอร์เฟสผู้ใช้ Dropbox สำหรับการแบ่งปันไฟล์

ต้องการส่งไฟล์ของคุณเพื่อขอลายเซ็นใช่หรือไม่ ต้องการดูประวัติเวอร์ชันใช่หรือไม่ ไม่ว่าจะต้องการทำอะไร เพียงคลิกเมาส์ปุ่มขวาที่ไฟล์ในโฟลเดอร์ Dropbox ของคุณ แล้วคุณจะค้นพบตัวเลือกต่างๆ ได้ทั้งหมด

รูปภาพที่แสดงถึงอินเตอร์เฟสผู้ใช้ Dropbox สำหรับการดำเนินการบนเมนูบริบทที่สามารถทำกับไฟล์ได้

คำถามที่พบบ่อย

ในโพสต์ประกาศแจ้งบนแพลตฟอร์มฝ่ายสนับสนุนลูกค้า ทาง Adobe ระบุไว้ว่า

“ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2024 เป็นต้นไป Adobe จะเริ่มหยุดให้บริการไฟล์ที่ซิงค์กับ Creative Cloud สำหรับผู้ใช้แผนบริการส่วนตัวทั้งแบบฟรีและแบบชำระค่าบริการที่ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีธุรกิจ Creative Cloud สำหรับองค์กรหรือ Creative Cloud สำหรับทีม”

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไฟล์ต่างๆ สูญหาย เราขอแนะนำให้ลูกค้า Adobe Creative Cloud ย้ายไฟล์ของตนล่วงหน้าก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2024

คำแนะนำที่ Adobe ให้ไว้ในโพสต์ประกาศแจ้งสำหรับลูกค้าที่ใช้แผนบริการส่วนตัวระบุไว้ว่า

“เนื้อหาของคุณจะยังคงอยู่ในโฟลเดอร์ไฟล์ Creative Cloud บนอุปกรณ์ของคุณ ทางเราขอแนะนำให้คุณสำรองไฟล์ไว้ในเครื่อง, สำรองไปยังโซลูชันที่รองรับ Adobe […] หรือสำรองไปยังผู้ให้บริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์บุคคลที่สาม โดยให้ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Adobe บนอุปกรณ์ของตนเองเพื่อซิงค์เนื้อหาเวอร์ชันล่าสุดก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2024”

Adobe แนะนำให้ลูกลองหาโซลูชันด้านบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์รายอื่นเพื่อใช้จัดเก็บไฟล์ของตน เช่น Dropbox

ในการโอนย้ายไฟล์ของคุณจาก Adobe Creative Cloud ไปยัง Dropbox คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าสามารถเข้าถึงสำเนาไฟล์ดังกล่าวจากภายในเครื่องได้ ซึ่งสำเนาอาจจะอยู่ในโฟลเดอร์ไฟล์ Creative Cloud บนฮาร์ดไดรฟ์ที่เชื่อมโยงอยู่กับการสมัครสมาชิก Adobe Creative Cloud ของคุณ หรือจะส่งออกไฟล์และดาวน์โหลดไฟล์ดังกล่าวด้วยวิธีอื่นก็ได้

จากนั้นคุณจะต้องอัปโหลดไฟล์ไปยังบัญชี Dropbox ของตนเอง โดยอาจจะอัปโหลดได้ง่ายกว่าหากแบ่งข้อมูลของคุณออกเป็นชุดๆ

คุณสามารถอัปโหลดไฟล์และโฟลเดอร์ไปยังบัญชี Dropbox ของตนเองได้บน dropbox.com และในแอปเดสก์ท็อป Dropbox โดยไฟล์หรือโฟลเดอร์แต่ละรายการที่อัปโหลดบน dropbox.com จะมีขนาดสูงสุดได้ถึง 50 GB ส่วนไฟล์หรือโฟลเดอร์แต่ละรายการที่อัปโหลดบนแอปเดสก์ท็อป Dropbox จะมีขนาดสูงสุดได้ถึง 2 TB

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการอัปโหลดไฟล์ไปยังบัญชี Dropbox ของคุณ